Sunday 12 June 2011

Weekly - Manager Online - ทัวร์สวนผลไม้ ลิ้มรสหวาน จันท์ - ระยอง

Weekly - Manager Online - ทัวร์สวนผลไม้ ลิ้มรสหวาน จันท์ - ระยอง
ทัวร์สวนผลไม้ ลิ้มรสหวาน "จันท์ - ระยอง"
โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ 10 มิถุนายน 2554 10:36 น.
Destination
เรื่อง/ภาพ นพพร ยรรยง

จะมีสักกี่ประเทศในโลกกันเล่าที่เพียบพร้อมไปด้วยอาหารการกินตลอดทั้งปีอย่างบ้านเรา แม้วันนี้คำว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ดูจะตามหายากขึ้นทุกที แต่ไม่ห่างจากใจกลางกรุง กลับยังพบร่องรอยของวันวาน กลิ่นอายจากความเรียบง่ายอันอุดมไปด้วยความหอมหวานจากผลไม้นานาพันธุ์ ซึ่งกลิ่นหอมรัญจวนใจนี้เอง ที่นำพาคอลัมน์ Destination มาพบกับเมืองในฝัน สวรรค์ของผลไม้

จากข้อความด้านบน ผู้อ่านบางท่านคงพอเดากันออกบ้างแล้ว ว่าสุดสัปดาห์นี้เราจะไปลงเอยหย่อนกายกันที่ใด เพราะหากเอ่ยถึง เมืองผลไม้ในเมืองไทย ที่ไม่ไกลกรุงคงหนีไม่พ้น ระยองกับจันทบุรี ถูกต้องนะครับ! สองเมืองนี้คือปลายทางในสุดสัปดาห์ของเรา

โดยการเดินทางหนนี้ เรามีโอกาสร่วมทางไปกับกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อไปดูการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน บนความเรียบง่ายที่มีมาตรฐาน หลังผ่านสายฝนจากเมืองกรุงมาได้พักใหญ่ คาราวานของเราก็มุ่งหน้ามาถึงยังปลายทางแรก จ.จันทบุรี กลิ่นไอดินโชยเข้ามาทันทีที่ประตูรถเปิดออกกลางสวนผลไม้ ในบ้านเขาบายศรี หมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งแฝงตัวอยู่หลังแมกไม้นานาพันธุ์

หมุดหมายของคนเมือง คือการเดินชมสวนผลไม้ 100 ปี ซึ่งประกอบด้วย 6 สวน โดยคาดว่าจะใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ แต่หากมีใครหลงรสชาติของผลไม้ในสวน ผมคิดว่าเวลาเพียงเท่านี้คงไม่พอ

สวนผลไม้ 100 ปีนี้ เปี่ยมไปด้วยภูมิปัญญาของปราชญ์ในยุคก่อน เพราะสวนเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่นี้ อาศัยน้ำที่ได้จากการขุดอุโมงค์ใต้ดินซึ่งขุดไว้เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ตลอดปี โดยมีลักษณะคล้ายอุโมงค์ที่เวียดกงใช้ซ่อนตัวระหว่างรบกับทหารอเมริกันสมัยสงครามเวียดนาม คืออุโมงค์จะเชื่อมโยงถึงกันหมดเต็มพื้นที่และมีความสลับซับซ้อน

พวกเราได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าบ้านที่เต็มใจต้อนรับด้วย น้ำใบเตยหอมหวาน ตามด้วยผลไม้นานาชนิดที่ยั่วยวนสายตาให้ลองชิมเหลือเกิน แต่เหนืออื่นใดคือรอยยิ้มและคำทักทาย จากสำเนียงชาวจันทบุรีที่ไร้จริต แต่จริงใจโดยเนื้อแท้

สิ่งแรกที่ควรทำก่อนการเดินชิม และชมสวนผลไม้คราวนี้คือ การทายากันยุงกันไว้ก่อน เพราะแว่วมาว่ายุงชุมมาก และยุงมักชอบขบผิวชาวกรุงเสียด้วย ทุเรียนกลายเป็นผลไม้คำแรกที่ถูกป้อนเข้าปากหลังเดินเข้าสวน อาจฟังธรรมดา หากแต่ทุเรียนผลนี้ผ่านการเดินทางมากว่า 100 ปี โดยปัจจุบันธรรมชาติสร้างให้มันมีหนามที่ใหญ่และแข็งแรงกว่าปรกติมาก เผื่อไว้ไม่ให้มันเจ็บตอนร่วงลงมาจากต้นที่สูงหลายสิบเมตร

เสียงเรอ…เอิ๊กอ๊ากกลางสวน พร้อมกลิ่นตลบอบอวลฟุ้งไปทั่วพื้นสวน เหล่านักเดินทางที่เดินชิมโน่นชิมนี่ ทั้งเงาะ มังคุด ชมพู่ แก้วมังกร ฯลฯ เรื่อยมา เพลินตากับสีเขียวและความหวานอร่อยจากผลไม้สดๆ จากต้น

เราเดินกันมาแบบมือไม่ว่างจนถึงปลายทางที่ทุกคนต้องรู้จักนอบน้อมต่อธรรมชาติอย่างแท้จริง เพราะนี่คือสวนสละ หากไปเดินทะเล่อทะล่า ไม่ก้มหัวหรือมองทางให้ดี คุณอาจได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลก่อนจะทันได้ลิ้มลองรสชาติสละ

ก้าวสุดท้ายก่อนออกจากสวน หนังตามันหย่อน หนังท้องมันตึง จนอยากจะนอนซะที่นี่เดี๋ยวนี้เลย แต่วันรุ่งเรายังมีนัดกับอีกหนึ่งสถานที่ จึงจำต้องจากมา เช้าวันใหม่ในจังหวัดระยอง กับการตามหาความเรียบง่ายในชุมชนที่ยังคงวิถีดั้งเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น “บ้านจำรุง” เป็นปลายทางในเช้าวันใหม่ที่ผมจะไปเยือน

อาจเกิดคำถามผุดขึ้นมาว่า มาทำไมกัน มันก็แค่หมู่บ้านตามต่างจังหวัด เหมือนกันทุกที่ล่ะ ผมอยากให้คุณเปิดใจแล้วลองมองให้ลึกถึงความเป็นอยู่ในหมู่บ้านนี้ เพราะที่นี่ เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ และมีชุมชนที่แข็งแกร่ง จนเกิดการก่อตั้ง มหาวิทยาลัยบ้านนอก คอยให้ความรู้แก่ชาวบ้านและคนที่สนใจเรียนรู้

แต่หนึ่งในไฮไลต์ที่ใครมาต้องติดใจ มาแล้วต้องมาอีก คือ โฮมสเตย์ บ้านจำรุง ที่มีคอนเซ็ปต์ว่า เสื่อผืน หมอนใบ มุ้งหนึ่งหลัง กับน้ำใจอีกนับไม่ถ้วน ซึ่งบางส่วนในคอนเซ็ปต์อาจไม่เหมาะกับคนกรุงรักสบายมากนัก แต่สำหรับขาชอปที่ชื่นชอบงานทำมือกับผลไม้แปรรูป...รับรองไม่ผิดหวัง

สักครั้งหนึ่งถ้าคุณอยากลองสัมผัสห้องนอนในบ้านไม้ แทนห้องนอนคอนกรีต หรือเปลี่ยนห้องสี่เหลี่ยมบนตึกสูง เป็นห้องไม้กว้างโล่ง กับบานหน้าต่างที่ล้อมไปด้วยแมกไม้ เช้ามาฟังเสียงนก ตกเย็นล้อมวงกินข้าว รับรองว่าโฮมสเตย์ที่นี่ไม่ผิดหวังครับ ชีวิตคุณจะดูช้าลงเยอะ ถ้าได้มาลองใช้ชีวิตที่นี่สักหนึ่งวัน

ถ้าวันหยุดหน้า คุณผู้อ่านอยากลองใช้ชีวิตให้ช้าลง และดื่มด่ำกับความเรียบง่ายในรสชาติที่หวานไม่รู้ลืม จากผลไม้สดๆ จากสวน ลองหมุนพวงมาลัยเลี้ยวออกจากเมือง มุ่งหน้ามายังสองจังหวัดนี้ดูครับ

Notebook

สวนผลไม้บ้านเขาใบศรี
ท่องเที่ยวได้ตลอดปี

ช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวชิมผลไม้คือประมาณเดือน พ.ค.-มิ.ย.

ค่าเข้าชมสวนคนละ 99 บาท กินได้ไม่อั้นแต่ห้ามนำออกจากสวน

หากสนใจค้างคืน โฮมสเตย์ที่นี่ คิดราคาหัวละ 250 บาท/คืน พร้อมอาหารเช้า และสามารถชมสวนผลไม้ได้ด้วย สนใจติดต่อโทร.086-834-9604, 083-078-8002

โฮมสเตย์บ้านจำรุง

ท่องเที่ยวได้ตลอดปี
โฮมสเตย์หัวละ 500 บาท กิน นอน ในสวน

กิจกรรมประกอบด้วย เดินชมสวน ดูวิถีชาวบ้าน มีของกิน ของฝากให้เลือกชอป

สนใจติดต่อโทร.087-817-8030

No comments:

Post a Comment