Friday 24 June 2011

นสพ.คอม - ผ้าไหมไทยกระหึ่มอิตาลี

นสพ.คอม - ผ้าไหมไทยกระหึ่มอิตาลี

ผ้าไหมไทยกระหึ่มอิตาลี

วันศุกร์ ที่ 24 มิถุนายน 2554 เวลา 9:22 น
Bookmark and Share
เนื้อหาข่าว

นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ผลิตอัญมณีและเครื่องประดับและสินค้าแฟชั่นแบรนด์ดังของอิตาลียี่ห้อ “บูล การี” ได้สนใจซื้อผ้าไหมยกดอกลำพูนของไทย และผ้าไหมไทยอีกหนึ่งชนิด ที่ได้รับเครื่องหมายรับรองนกยูงทอง ของพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อผลิตเป็นสินค้าแบรนด์เนม ของ บูลการี

ทั้งนี้การสั่งซื้อสินค้าผ้าไหมไทยเกิดขึ้นระหว่างที่กรมฯ ได้เดินทางเยือนอิตาลี เพื่อหารือกับสมาคมสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของอิตาลี ภาคเอกชนสาขาอัญมณีและเครื่องประดับ และสิ่งทอของอิตาลี เพื่อส่งเสริมนำสินค้าภูมิปัญญาไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก

“การเดินทางครั้งนี้เป็นการจับคู่สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ซึ่งบูลการีสนใจผ้าไหมไทยมาก โดยเฉพาะผ้าไหมยกดอกจากลำพูน ที่มีความสวยงาม แปลกตา และหรูหรา เพื่อนำไปทำเป็นผ้าพันคอขายทั่วโลก และได้สั่งให้ไทยทำผ้าไหมอื่นพร้อมราคาเสนอไปให้พิจารณาเพิ่มอีกด้วย”

ทั้งนี้ถือเป็นการยกระดับผ้าไหมไทยให้ชาวโลกได้รู้จัก และเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งของผ้าไหมที่ทำจากภูมิปัญญาไทย จากก่อนหน้านี้ ไทยได้จับคู่ผ้าไหมยกดอกลำพูน กับแชมเปญของฝรั่งเศส เพื่อทำตลาดร่วมกันมาแล้ว นอกจากนี้ อิตาลียังสนใจจับคู่ข้าวไทย กับน้ำมันมะกอก เพื่อทำการตลาดร่วมกันในอียู ซึ่งจะเป็นการขยายตลาดสินค้าไทยในอียูให้กว้างขวางขึ้น

นางปัจฉิมา กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 12-19 มิ.ย. ยังได้นำคณะผู้แทนกรมทรัพย์สินทางปัญญา และภาคเอกชนไทย ไปร่วมงานนิทรรศการการอนุญาตให้ใช้สิทธิระหว่างประเทศ ที่ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยนำสินค้าแบรนด์ของตัวเองไปเปิดทางสู่ธุรกิจใหม่ ๆ โดยการขอใบอนุญาตใช้โลโก้ของแบรนด์อื่นบนสินค้าของตัวเอง

สำหรับสินค้าไทยที่ต่างชาติสนใจซื้อสิทธิ เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากข้าวกล้องงอกอินทรีย์ ซึ่งสหรัฐ สนใจร่วมทำผลิตสินค้า และขายในตลาดอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก สินค้าผ้าไหม ที่สหรัฐสนใจสั่งซื้อเดือนละประมาณ 10,000 หลา หรือประมาณ 28 ล้านบาทต่อปี รวมถึงตัวการ์ตูนอุลตราแมน และบัดดี้ บันนี่ ที่ถูกซื้อสิทธินำไปผลิตเป็นสินค้าในหลายประเทศ รวมถึงส่งออกไป เกาหลี และญี่ปุ่น

ส่วนความคืบหน้าด้านการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ล่าสุดการประชุมคณะทำงานสืบสวนและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ที่มี พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นประธาน ได้มอบหมายให้ทุกกองบัญชาการของ สตช. กวดขันปราบปรามการละเมิดในพื้นที่สีแดง ที่มีการละเมิดมาก ทั้งพันธุ์ทิพย์ คลองถม สะพานเหล็ก ฯลฯ และตรวจสอบเชิงลึก เพื่อขยายผลเพื่อจับกุมแหล่งผลิต ผู้ค้าส่งขนาดใหญ่ และที่สำคัญให้กวดขันไม่ให้มีการละเมิดหนังเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรภาค 3-4 รวมถึงกวดขันจับกุมในพื้นที่ตามแนวชายแดนที่เป็นช่องทางนำเข้า ส่งออกสินค้าละเมิด ทั้งทางบก น้ำ และอากาศ และพื้นที่ลำเลียงด้วย

“ขณะนี้ได้รับรายงานว่า กลุ่มผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ได้ปรับเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์จากต่างแดนเข้ามา จากเดิมใช้ท่าเรือเป็นทางผ่าน มาเป็นลักลอบนำเข้าตามชายแดนต่าง ๆ ทำให้การจับกุมลำบากขึ้น นอกจากนี้ยังพบการลักลอบขายตามอินเทอร์เน็ต ทั้งการดาวน์โหลด หรือการสั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น และใช้การส่งสินค้าโดยพัสดุไปรษณีย์ แทน ทำให้การจับกุมยากขึ้น ดังนั้น คณะทำงานสืบสวนฯ จะเร่งปรับรูปแบบการปราบปราม และร่วมมือกับหลาย ๆ หน่วยงานในการทำงานเพิ่มขึ้น”.

No comments:

Post a Comment